5 เทคนิคการออกแบบบรรจุภัณฑ์สำหรับกล่องใส่อาหารคลีนให้ดูแพง
อาหารคลีนที่ดูเรียบง่าย จนลูกค้าอาจจะคิดว่าต้นทุนไม่น่าจะสูงเท่าไหร่ ไม่น่าจะต่างจากอาหารทั่วไป คุณจะทำอย่างไรให้อาหารคลีนของคุณดูพรีเมี่ยม ดูคุ้มค่าในการที่ลูกค้าจะยอมจ่ายที่ราคาสูงกว่าอาหารทั่วไป ลองมาดูเทคนิคที่ทำได้จริงกันเลย
1. มีช่องแยกอาหารให้ชัดเจน
ในกล่องใส่อาหารควรจะมีช่องแยกอาหารให้ชัดเจน เพื่อไม่ให้รสชาติอาหารนั้นมาปนกัน เพราะการเสิร์ฟอาหารจากกล่องใส่อาหารนั้น แสดงว่าลูกค้าไม่ได้ทานอาหารของเราทันที ซึ่งอาจจะเป็นอาหารกล่องแบบสั่งกลับบ้าน หรืออาหารเดลิเวอรี่ การแยกช่องอาหารในกล่องใส่อาหารนอกจากจะช่วยเรื่องรสชาติแล้ว ยังช่วยให้อาหารของเราดูน่ารับประทาน ดูไม่เละเทะปนกัน โดยเฉพาะอาหารประเภทข้าว แล้วมีกับข้าวหรือผัก การที่กับข้าวเช่น เนื้อสัตว์หรือแกง มาปนกับข้าวสวยนั้นทำให้ข้าวแฉะ และดูเหมือนอาหารกล่องที่ใส่ข้าวราดแกงทั่วไปซึ่งไม่ดูพรีเมี่ยม
กล่องใส่อาหารคลีนควรมีอย่างน้อย 2 ช่อง คือช่องหลักเพื่อใส่ข้าว หรือวัตถุดิบหลัก ช่องที่เหลือสำหรับใส่กับข้าว และผักหรือผลไม้ เพียงแค่คุณจัดวางอาหารเป็นสัดส่วน กล่องใส่อาหารของคุณก็จะดู พรีเมี่ยมน่ารับประทาน
2. ป้องกันการเลอะเทอะในกล่องใส่อาหาร
เนื่องจากอาหารคลีนเป็นอาหารที่มีทั้งลักษณะที่เป็นน้ำ เช่นต้มต่างๆ หรือของที่มีลักษณะนิ่ม หรือผักผลไม้ การมีช่องในกล่องใส่อาหารนั้นอาจจะไม่เพียงพอ จะต้องเพิ่มการห่อหรือใส่ถุงพลาสติกหรือจานกระดาษเพื่อแยกอาหารไม่ให้เลอะเทอะ เนื่องจากส่วนที่เป็นน้ำ อาจจะเล็ดลอดไปช่องอื่นๆ ในกล่องใส่อาหารเวลาที่ขนส่งได้ เราอาจจะนำผักหรือผลไม้ใส่ถุง หรือกล่องพลาสติกเล็กๆ อีกที เพื่อป้องกันอาหารคาวมาปนเปื้อน
ซอส น้ำสลัด หรือน้ำจิ้ม ไม่ควรราดลงไปบนอาหารล่วงหน้า ควรจะให้ลูกค้าเป็นคนเทเองเมื่อเวลาจะกินเท่านั้น ดังนั้นควรจะต้องแยกใส่ถ้วยพลาสติก เพื่อให้ไม่หกเวลาขนส่ง และสะดวกต่อการรับประทานนอกร้าน
3. กล่องพลาสติกฝาใส โชว์ความน่าทาน
แน่นอนว่าปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ประเภทอาหารคือ ความสะอาด ความสดใหม่ และดูน่ากิน ดังนั้นบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารจึงควรเป็นกล่องใส่อาหารแบบพลาสติกใส ที่สามารถมองเห็นตัวอาหารได้อย่างชัดเจน กล่องพลาสติกใสนั้นจะต้องดูสะอาดสะอ้าน ไม่มีรอยเปื้อน การจัดวางอาหารลงกล่องใส่อาหารนั้นก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้อาหารคลีนของคุณนั้นดูพรีเมี่ยมมากขึ้นอีกด้วย
การเลือกกล่องใส่อาหารที่เป็นประเภทพลาสติกนั้น ควรเลือกเนื้อพลาสติกที่แข็ง เพื่อที่จะไม่ทำให้เกิดการยุบตัวจากการขนส่ง และเวลาลูกค้านำไปใช้จะรู้สึกถึงความใส่ใจและคุณภาพของบรรจุภัณฑ์อาหารของคุณ
4. มีสายคาด สติ๊กเกอร์โลโก้ เพื่อแสดงแบรนด์ให้ชัดเจน
Branding ที่ชัดเจน จะช่วยให้อาหารของคุณดูพรีเมี่ยมมากขึ้น ซึ่งคุณสามารถแสดงตัวตนของแบรนด์ผ่านทางการออกแบบบรรจุภัณฑ์ใส่อาหารได้ เช่นการทำสายคาดหรือสายรัดที่มีโลโก้และช่องทางการติดต่อ หรือการทำสติ๊กเกอร์โลโก้ ออกแบบสีและตัวอักษรที่บ่งบอกถึงตัวตนของแบรนด์ ซึ่งคุณอาจจะสื่อสารถึงจุดขายของคุณเพิ่มไปอีกได้เช่น จำนวนแคลลอรี่ น้ำมันที่ใช้แบบพิเศษหรือวัตถุดิบพิเศษ เพื่อให้ผู้บริโภคเห็นว่าคุณภาพของอาหารนั้นดีแค่ไหน และแตกต่างจากคู่แข่งอย่างไร
การเลือกใช้สีสายคาด หรือโลโก้ ต้องเลือกให้สอดคล้องกับแบรนด์ของคุณ เช่น ถ้าแบรนด์ของคุณเน้นธรรมชาติ หรือออร์แกนิค ควรใช้โทนสีเอิร์ธโทน ไม่ควรใช้สีฉูดฉาด
5. ออกแบบบรรจุภัณฑ์อาหารให้พร้อมทาน
ความพรีเมี่ยมของสินค้าและบริการนั้นวัดกันที่ว่า คุณใส่ใจกับรายละเอียดการออกแบบการบริการให้กับลูกค้าของคุณมากแค่ไหน เช่น ใส่ใจว่าลูกค้าจะนำอาหารออกมาทานได้อย่างสะดวกอย่างไรไม่ให้เลอะเทอะ ส่วนที่เห็นง่ายที่สุดคือซอส หรือน้ำสลัด อาจจะออกแบบเป็นถ้วยพลาสติกเล็กๆ ขนาด1oz หรือ1.5 oz ใส่ซอส แทนที่จะเป็นถุงซอสแบบฉีก หรือการบริการแบบง่ายๆ ที่สามารถทำให้ลูกค้าประทับใจได้ เช่น การมีชุดช้อนส้อมและกระดาษทิชชู่ เพื่อป้องการเลอะเทอะและสร้างความสะดวกเวลาลูกค้าทานอาหาร
ถ้าคุณสามารถออกแบบกล่องอาหารได้อย่างสร้างสรรค์ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้แล้วละก็ บรรจุภัณฑ์อาหารของคุณก็จะกลายเป็นอาวุธลับสำคัญที่จะสร้างจุดขายที่แตกต่างให้กับแบรนด์ของคุณได้มากเลยทีเดียว
สนใจเลือกซื้อกล่องอาหารคูลๆพร้อมโลโก้ คลิกเลย