5 เทรนด์อาหารสุขภาพที่เหมาะแก่การสร้างธุรกิจอย่างง่ายๆในปี 2019

เทรนด์อาหารสุขภาพที่มาแน่ๆ ในปี 2019 คืออะไร และเมื่อเรานำเทรนด์ใหม่ๆเหล่านี้มาทำการตลาด เราควรมีเทคนิคการสื่อสารในช่วงเริ่มต้นธุรกิจอย่างไร ลองมาอ่านบทวิเคราะห์ของ อ.ดร.เอกก์ ภทรธนกุล ภาควิชาการตลาด Chulalongkorn Business School ที่ได้รวบรวมมาจากเทรนด์ของต่างประเทศที่จะเข้ามาแน่ๆ ในเมืองไทย

1. Infused Water

Infused Water หรือ น้ำเปล่าแช่ผลไม้ คือ การนำผลไม้มาแช่ทิ้งไว้ในน้ำเปล่า เพื่อเพิ่มความหอม เวลาดื่มก็จะได้ความหอมของกลิ่นของผลไม้นั้นๆ เช่น ใส่ส้มลงไปในน้ำ ก็จะได้กลิ่นส้ม หรือกลิ่นซิตรัส วิธีการทำก็คือ ต้องแช่ผลไม้ไว้ในน้ำ 6 ชั่วโมงขึ้นไป อาจจะมีการใส่ใบมิ้นท์เพิ่มเข้าไปด้วย สามารถใส่น้ำแข็งเพื่อให้ผู้ดื่มรู้สึกดี รู้สึกว่าไม่ได้ดื่มน้ำเปล่าเฉยๆ ดีต่อสุขภาพเนื่องจากไม่มีน้ำตาล หรือน้ำตาลที่ได้นั้นก็คือน้ำตาลฟรุกโตสที่มาจากผลไม้ กระบวนการทำน้ำ Infused Water เหมือนจะมีขั้นตอนที่ไม่ซับซ้อน แต่เนื่องจากจะต้องแช่ผลไม้ไว้เป็นเวลานาน และต้องมีกระบวนล้างผลไม้ให้สะอาด ด้วยความยุ่งยากนี้จึงมีผู้ทำน้ำ Infused Water นี้ออกมาขาย ซึ่ง SME สามารถนำไอเดียนี้มาต่อยอดทำธุรกิจได้เนื่องจากต้นทุนไม่สูงมาก ธุรกิจร้านอาหารสามารถนำน้ำ Infused Water มามอบให้แก่ลูกค้าเป็น Welcome Drink ได้ ผลไม้ที่สามารถนำมาใช้แช่ ได้แก่ ส้ม แอปเปิ้ล มะนาว สับปะรด องุ่น สตรอเบอร์รี่ ดอกมะลิ ซึ่งที่สำคัญเป็นอย่างยิ่งคือการล้างผลไม้ให้สะอาด

2. Farro


เทรนด์ที่ผ่านมา ควินัว เป็นธัญพืชที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย กระแสควินัวยังคงมีอยู่แต่อาจจะได้รับความนิยมน้อยลง เทรนด์ในปีหน้า Farro (ฟาร์โร่) เป็นเทรนด์ที่ได้รับความนิยมากขึ้น Farro เป็นธัญพืชที่มีลักษณะคล้ายข้าว รสชาติมัน อร่อย กรุบกรอบคล้ายถั่ว ซึ่งผู้ประกอบการร้านอาหารสามารถนำ Farro ไปช่วยในการทำการตลาดเพื่อให้เกิดเมนูใหม่ ๆ เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคที่เน้นอาหารเพื่อสุขภาพได้

3. Probiotics

Probiotics คือ แบคทีเรียที่ดีต่อสุขภาพ พบได้ในโยเกิร์ต หรืออาหารอื่นๆ ที่เกิดจากหมักได้แก่ กิมจิ มิโสะซุบ น้ำส้มสายชูรสชาติต่างๆ ซึ่งการมีแบคทีเรียที่ดี จะช่วยเรื่องระบบขับถ่าย ทำให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารได้ดีขึ้น ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ Probiotics คือ ยาคูลย์และบีทาเก้น ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ออกมาตอบโจทย์ผู้บริโภคทุกเพศทุกวัย ซึ่ง Probiotics จะเป็นเทรนด์อาหารที่มาแรงที่ผู้บริโภคให้ความสนใจเป็นอย่างมาก

4. Energy Ball

Energy Ball คือ ธัญพืชที่นำมาอบเป็นก้อนแล้วราดด้วยน้ำผึ้ง​ ซึ่งสามารถกินแทนขนมได้ บ้างคนกินแทนการกินขนมถุง ประเภทมั่นฝรั่งทอดที่มีเกลือสูงซึ่งจะทำให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพ ปัจจุบันมีดาราเริ่มทำผลิตภัณฑ์ Energy Ball ออกมาวางขาย อาจจะใช้ชื่อว่า Super Ball หรือ Super Energy ลูกหนึ่งราคาสูงถึง 100 บาท จุดขายของ Energy Ball คือ แทนที่เราจะกินขนมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เรามาทานขนมที่ดีต่อสุขภาพดีกว่า และในเชิงการขายยังมีการโปรโมทเพิ่มเติมอีกว่าอาจจะไม่ต้องทานกลางวันหรืออาหารเย็นได้ เพราะ Energy Ball 1 ลูกจะให้พลังงานที่เยอะมาก ซึ่งช่วยในการลดน้ำหนัก ในต่างประเทศ Energy Ball เริ่มเป็นที่นิยมมากขึ้น บางผลิตภัณฑ์อาจจะมีแบบโรยมะพร้าวเพิ่มขึ้นมาด้วย ซึ่งเทรนด์ในปีนี้จะเป็นที่นิยมในกลุ่มคนที่รักสุขภาพและชอบออกกำลังกายมากขึ้น

5. เวย์โปรตีนแบบใส

แต่ก่อนการเข้าฟิตเนสจะดูเป็นเรื่องที่หรูหรา แต่ปัจจุบันการเข้าฟิตเนสกลายเป็นของทั่วไปสำหรับคนที่ต้องการดูแลตัวเอง คนที่เล่นฟิสเนสอย่างจริงจังเริ่มรู้สึกอยากให้เห็นผลลัพธ์ที่เร็วขึ้น โปรตีนเป็นสารอาหารที่จะช่วยส่งเสริมในการสร้างกล้ามเนื้อ ซึ่งแต่ก่อนจะใช้วิธีการกินอกไก่ แต่บางคนจะรู้สึกว่ากินได้ยาก จึงได้มีผลิตภัณฑ์ที่สกัดออกมาเป็นเวย์โปรตีน เวย์โปรตีนบางยี่ห้ออาจจะมีรสชาติที่ขม หรือบางคนอาจจะไม่ชอบที่มีรสชาติคล้ายนม จึงเริ่มมีการผลิตเป็นเวย์โปรตีนแบบใส และมีรสชาติผลไม้มากขึ้น ผู้หญิงที่ต้องการเพิ่มกล้ามเนื้อที่ไม่มากเท่าผู้ชายก็สามารถทานเวย์โปรตีนแบบใสนี้ได้

เทรนด์ของอาหาร 5 ประเภทนี้เป็นเทรนด์ที่น่าสนใจและน่าจับตามองเป็นอย่างมาก ข้อควรระวังคือ การสื่อสารกับลูกค้าให้เข้าใจจุดขายและข้อดีของผลิตภัณฑ์ของเราให้ชัดเจน ยกตัวอย่างเช่น Infused Water ลูกค้าอาจจะเข้าใจว่าทำไมขายราคาแพงทั้งที่ต้นทุนไม่ได้สูง แต่เราต้องอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจว่า เราจะต้องนำผลไม้ไปแช่กี่ชั่วโมง ผลไม้มีการคัดเลือกมาอย่างดีเป็นผลไม้ออร์แกนิค และเราอาจจะบอกคุณสมบัติเพิ่มเติมว่าการใส่ใบมิ้นท์เข้าไปนั้นดีต่อสุขภาพอย่างไร หรือการกิน Energy Ball ต้องอธิบายการกินให้ชัดเจนว่า กินแล้วไม่ใช่ไปกินข้าวต่อ เพราะจะทำให้น้ำหนักขึ้นได้ ช่วงเริ่มต้นของการทำธุรกิจจะต้องมีการอธิบายให้ลูกค้าเข้าใจในผลิตภัณฑ์ของเราอย่างชัดเจน

สนใจเลือกซื้อกล่องอาหารทุกชนิด พร้อมโลโก้ คลิกเลย