เผย 5 กลยุทธ์ จับ Trend & Insight ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มจากงาน LINE FOOD TECH 2019
ธุรกิจอาหารควรจะปรับตัวและแข่งขันได้อย่างไรในยุคดิจิทัล เทรนด์ของอาหารเดลิเวอรี่และเทรนด์การเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมยังจะคงมีอยู่ต่อไปหรือไม่ สามารถอ่านต่อได้ที่นี่อย่างเจาะลึกกับ 5 กลยุทธ์ที่มีการพูดคุยและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ระหว่างทีมงาน LINE และบริษัทพาร์ทเนอร์สำหรับธุรกิจอาหารในงาน LINE FOOD TECH 2019
1.ความอร่อยและคุ้มค่าคือหัวใจหลัก
ปฏิเสธไม่ได้ว่าธุรกิจร้านอาหารในยุคนี้มีการแข่งขันที่สูงมาก ทำให้ร้านอาหาร “ดังไวดับไว” ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันต่างเฟ้นหาร้านใหม่ๆ ที่เป็นกระแสหรือตามแฟชั่น ซึ่งทำให้ร้านอาหารที่เพิ่งเปิดใหม่นั้นสามารถหาลูกค้าหน้าใหม่ได้ไม่ยากเลย แต่สิ่งที่ควรให้ความสำคัญมากยิ่งขึ้นไปอีกคือทำอย่างไรให้ลูกค้าหน้าใหม่เหล่านั้นกลายเป็นลูกค้าประจำของร้าน สิ่งนั้นก็คือ ความอร่อยของอาหาร และความคุ้มค่าในสายตาของลูกค้า ซึ่ง 2 สิ่งนี้ถือเป็นหัวใจหลักของธุรกิจอาหาร ไม่ว่าเทรนด์หรือเทคโนโลยีจะเปลี่ยนไปมากแค่ไหนก็ตาม คุณภาพและความคุ้มค่ายังคงเป็นปัจจัยหลักในมุมมองของลูกค้าเสมอ
Source : Freddie RiceCurry เฟรดดี้ ข้าวแกงกะหรี่เราตั้งใจทำข้าวแกงกะหรี่ญี่ปุ่น โดยใช้วัตถุดิบเครื่องแกงและเครื่องปรุงนำเข้าจากประเทศต้นกำเนิด โดยปรับให้มีรสชาติเหมาะกับคนไทย ลดความเลี่ยน เพิ่มความเข้มข้น และผสมผสานกับอาหารเครื่องเคียงที่มีความแปลกใหม่ เราอยากให้ทุกคนได้ลองชิม เปิดบริการ 11:00-21:00 ทุกวัน (ส่งจาก ลาดพร้าว-วังหิน 48) สามารถสั่งผ่าน LINE MAN ได้เลย
2. สร้าง Brand Loyalty ให้ปังในยุคดิจิทัล
ธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มที่มีผู้เล่นมากหน้าหลายตา จะทำอย่างไรให้ลูกค้าสามารถจดจำและนึกถึงแบรนด์ของเราเป็นอันดับแรก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสร้าง Brand Loyalty ในกลุ่มร้านคาเฟ่ หรือร้านขนมหวาน ถือเป็นกลุ่มที่สามารถสร้าง Brand Loyalty ได้ยากที่สุดกลุ่มหนึ่ง เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคที่นิยมหาร้านแปลกใหม่อยู่เสมอ และต้องการถ่ายรูปเพื่อลงใน Social Media ต่างๆ ตัวอย่างการสร้าง Brand Loyalty ที่ประสบความสำเร็จ ในกลุ่มร้านคาเฟ่ คือร้านคาเฟ่ที่ดังที่สุดในยุคอย่าง After You ที่มีฐานแฟนคลับเหนียวแน่นมาก โดย After You ได้สร้างเมนูที่เป็นที่จดจำอย่างโทสต์ ซึ่งไม่ว่าจะไปเจอที่ร้านไหน ก็ต้องนึกถึง After You ทุกครั้ง และใช้ระบบสมาชิกเพื่อให้ลูกค้าประจำสามารถสะสมแต้ม เพื่อใช้แลกของรางวัล
สินค้าที่เป็นน้ำดื่มซึ่งเป็นสินค้าที่งานวิจัยระบุว่าเป็นสินค้าที่มี Brand Loyalty ต่ำที่สุด เนื่องจากลูกค้าสามารถเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้ง่าย นั่นคือแคมเปญการตลาดการสะสมแต้ม Singha Rewards ของสิงห์และน้ำแร่เพอร์ร่า โดยแต้ม Singha Rewards มาจากการเก็บฝาน้ำดื่มสิงห์ ใต้ฝาจะมีรหัส นำรหัสใต้ฝามาป้อนบนหน้าเว็บที่สมัครผ่าน LINE เพื่อสะสมพอยท์ ซึ่ง Singha Rewards เอาไว้แลกแต้มส่วนลดต่างๆ ได้ ด้วยช่องทาง LINE ทำให้แคมเปญนี้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทั่วประเทศและมีต้นทุน Cost per Point ที่ต่ำกว่าช่องทางอื่น
3. เดลิเวอรี่ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นสิ่งที่ทุกร้านต้องมี
ปัจจุบันเทรนด์ของอาหารเดลิเวอรี่เติบโต 10 เท่าภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 ปี Wongnai ได้จับมือกับ LINE MAN ในการเพิ่มบริการเดลิเวอรี่ลงไปในแพลตฟอร์ม ทำให้ร้านอาหารไม่ว่าจะร้านเล็ก หรือร้านใหญ่ แม้กระทั่งการขายอาหารจากที่บ้านก็สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ เพียงแค่มีฝีมือการทำอาหารที่อร่อย บรรจุภัณฑ์ที่ดี ซึ่งไม่ว่าร้านคุณจะอยู่ที่ไหนก็สามารถขายอาหารได้แล้ว ดังนั้นเทรนด์ของอาหารเดลิเวอรี่ไม่ใช่สิ่งที่ใหม่อีกต่อไป ร้านอาหารต้องมีเมนูสำหรับเดลิเวอรี่ ต้องมีการออกแบบกล่องอาหารที่ดี เพื่อให้รูปแบบของกล่องอาหารเดลิเวอรี่ที่ใช้นั้นเหมาะกับอาหารและช่วยส่งเสริมให้อาหารของร้านนั้นดูน่าทาน การออกแบบที่ดีจะช่วยให้กล่องอาหารเดลิเวอรี่เมื่อไปถึงมือลูกค้าแล้ว อาหารที่ถูกส่งไปนั้นยังคงดูน่าทานและได้คุณภาพเท่ากับนั่งทานที่ร้านอีกด้วย
4. ให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ด้วย Storytelling
มนุษย์ชอบฟังเรื่องเล่ามากกว่าข้อมูล การเล่าเรื่องหรือการทำการตลาดแบบ Storytelling เป็นรูปแบบการเล่าเรื่องแบบหนึ่ง เพื่อสร้างอารมณ์ร่วมให้คนนั้นเกิดความสนใจ และทำให้คนที่รับสื่อนี้เกิดความผูกผันกับแบรนด์ จากผลการวิจัยพบว่า การสื่อสารแบบ Storytelling ทำให้คนจดจำข้อมูลได้เพิ่มขึ้น 63% ซึ่งร้านอาหารสามารถใช้เทคนิคการสร้างแบรนด์ผ่าน Storytelling ได้ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ ความใส่ใจในขั้นตอนการผลิต ที่มาของสูตรอาหาร ประวัติการก่อตั้งร้าน โดย Storytelling สามารถเล่าผ่านสื่อต่างๆ ที่ลูกค้าใกล้ชิด (Consumer touch point) ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบของวิดีโอ รูปภาพ การตกแต่งร้าน บรรจุภัณฑ์อาหาร โลโก้ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ช่วยให้การสร้างแบรนด์ของร้านอาหารมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นและเป็นที่น่าจดจำมากขึ้น
Source : Jones Salad
5. ธุรกิจยุคใหม่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม
เทรนด์ที่เห็นได้ชัดมากขึ้นและจะยิ่งมีความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นคือ ความรับผิดชอบต่อสังคม ข้อมูลจาก Wongnai จะเห็นมุมมองใหม่ๆของลูกค้าที่มีเพิ่มมากขึ้น เช่น มีลูกค้าให้คะแนนร้านอาหารดาวเดียวเนื่องจากใช้หลอดพลาสติก รวมไปถึง Story ที่เกี่ยวของกับความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย เช่น ผลิตภัณฑ์เมล็ดกาแฟที่มาจากการกดราคาชาวเขา ดังนั้นร้านอาหารควรจะต้องปรับตัวในเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคม ตั้งแต่ขั้นตอนการดำเนินธุรกิจ ไปจนถึงบรรจุภัณฑ์อาหารที่ใช้ ควรเป็นบรรจุภัณฑ์อาหารที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้บรรจุภัณฑ์จากกระดาษและเยื่อธรรมชาติ แทนการใช้กล่องโฟม
สนใจเลือกซื้อกล่องอาหารทุกชนิด พร้อมโลโก้ คลิกเลย