ความเป็นมาของร้าน Fit Food Always
จากจุดเริ่มต้นเมื่อ 5 ปีที่แล้ว คุณเอฟเชฟหนุ่มที่มีใจรักในการทำอาหาร มีช่วงที่แฟนและตัวเขาเองทำงานหนักมากจนแทบไม่มีเวลาดูแลเรื่องสุขภาพและเรื่องอาหารการกินเลย แฟนเลยอยากจะสั่งอาหารคลีนแบบผูกปิ่นโต แต่เนื่องด้วยอาหารคลีนที่มีคุณภาพราคาค่อนข้างสูง เลยตั้งใจว่าจะเป็นคนทำอาหารแบบ healthy food ให้แฟนทานเอง จากการที่เราตั้งใจทำอาหารให้ดีที่สุด และแฟนชอบถ่ายรูปอาหารที่ทำลง social media ก็ทำให้เราค่อยๆเป็นที่รู้จักแบบปากต่อปาก ภายในระยะเวลาไม่ถึง 3 เดือน ก็มีคนรู้จักขยายวงกว้างมากขึ้นเรื่อยๆ จนเกิดเป็นธุรกิจขึ้นอย่างที่เห็นในปัจจุบัน
ทำไมถึงได้หลงใหลการทำอาหารแนว Healthy
ช่วงที่ผมได้มีโอกาสร่วมงานกับคุณ พล ตัณฑเสถียร ก็ได้มีการเชิญอาจารย์จากมหาวิทยาลัยมหิดล มาสอนเรื่องโภชนาการ ผมเลยได้เห็นมุมมองใหม่ๆ ในด้านการเลือกใช้วัตถุดิบที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เลยนำความรู้นั้นมาลองปรับใช้ โดยเริ่มจากการทำอาหารทานเองแล้วก็ทำให้แฟนและคนใกล้ตัวทานก่อน ซึ่งก็ได้รับ feedback ที่ดี ทำให้เรามีความหลงใหลในการทำอาหาร Healthy มากขึ้น
Fit Food Always หมายถึงอะไร
Fit Food Always มาจากการแนวคิดในการทานอาหารสุขภาพให้ถูกต้อง ถ้าเราทานอาหารสุขภาพหรืออาหารคลีนแค่เป็นแฟชั่นเพียงแค่ช่วงสั้นๆ เช่น 1-2 วัน หรือเป็นสัปดาห์เองก็ตาม มันก็อาจจะได้ผลนิดหน่อย แค่ทำให้รู้สึกดีขึ้น แต่ถ้าจะให้สุขภาพดีขึ้นจริงๆ จะต้องดูแลสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้น Fit Food Always ก็คืออาหารเพื่อสุขภาพที่ควรทานอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเราอยากให้ลูกค้าทานอาหารของเราแล้วสุขภาพดี และกลับมาใช้บริการซ้ำอีกอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน
ไอเดียการออกแบบโลโก้ของร้าน
โลโก้ของร้านเป็นสีเขียวซึ่งสื่อถึงความ Healthy เพราะสีเขียวนั้นเป็นสีของผัก และอยากจะให้มันดู soft ลงมาหน่อยก็ใส่ความเป็นพาสเทลเข้าไป ส่วนคำว่า “Eat Fit Fin Food” ที่อยู่ในโลโก้เป็น Motto ของผม ก็คือ Eat - กิน , Fit - แข็งแรง , Fin - มีความสุข, Food – อาหาร คือการทานอาหารอย่างมีความสุขและสุขภาพแข็งแรง ซึ่งพอนำตัวอักษรตัวหน้าของแต่ละคำมาวางเรียงกันแล้วก็จะได้ชื่อผมก็คือ เอฟ ฟูดส์ หรือ Eff Food เป็นการสื่อถึงว่าถ้าคุณมากินอาหารของ Fit Food Always ก็คือคุณมากินอาหารที่ผมตั้งใจทำให้นั่นเองครับ
มุมมองของอาหารคลีนหรืออาหารสุขภาพ
ในมุมมองของคนทั่วไปอาหารคลีนก็หมายถึงอาหารที่ปรุงสดใหม่ผ่านการปรุงแต่งรสชาติน้อย แต่ในมุมมองของผม อาหารคลีนจะต้องมองถึงที่มาของวัตถุดิบเป็นหลักก่อน ถ้าคุณได้ใช้วัตถุดิบที่ดีแล้ว มันก็จะควบรวมไปถึง 2 เรื่องนั้นก็คือเรื่องของรสชาติและคุณภาพ ความสดใหม่และโภชนาการที่คุณจะได้จากวัตถุดิบนั้น คลีนในความหมายที่สอง ก็คือต้องคลีนต่อตัวคุณเองและคลีนต่อสิ่งแวดล้อมด้วย ถ้าคุณคลีนกับตัวคุณเองแต่คุณไปทำร้ายโลกก็อาจจะไม่ค่อยแฟร์เท่าไหร่ถ้าเป็นเรื่องการกินก็ควรกินอาหารหลากหลายครบ 5 หมู่ จริงๆ อาหารคลีนก็คือส่วนหนึ่งของอาหารเพื่อสุขภาพนั่นเอง ซึ่งอาหารสุขภาพก็มีหลากหลาย สมัยก่อนก็คือ อาหารชีวจิต โดยที่มันจะเปลี่ยนไปตามกระแสสังคมและพฤติกรรมของผู้บริโภค สิ่งที่สำคัญที่สุดคือเราต้องมีสติในการกินว่าเรากำลังจะเอาอะไรเข้าไปในร่างกายของเรา หลักการสำคัญที่จะทำให้มีสุขภาพดีก็คือ การกินอาหารที่ดี การออกกำลังอย่างสม่ำเสมอ และการพักผ่อนที่เพียงพอ
ปัจจุบัน Fit Food Always ให้บริการในรูปแบบใดบ้าง
Fit Food Always ให้บริการอาหารกล่องแบบเดลิเวอรี่, Catering, การจัดอาหารนอกสถานที่, Office Party, งานจัดเลี้ยง, อาหารกล่องแบบ Packed Lunch ในงานสัมมนา รวมทั้งยังมีการจัดการบรรยายและ workshop โดยให้ผู้ที่สนใจได้มาร่วมทำอาหารเพื่อสุขภาพด้วยกัน
อาหารของเราจะมีอยู่ 3 คอร์สหลักๆ คือ
1. Healthy Balance สำหรับคนที่ต้องการลดน้ำหนักและดูแลสุขภาพ
2. Build Fit เหมาะสำหรับคนที่ต้องการมีซิกแพ็ค ชอบออกกำลังการในฟิตเนส
3. Cabbage Diet เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดน้ำหนักอย่างเร่งด่วน หรือต้องการดีท็อกซ์
โดยคอร์ส Cabbage Diet นั้นได้รับเสียงตอบรับดีมากเพราะยังไม่มีใครทำมาก่อน ภายใน 10 วัน น้ำหนักลด 1-3 กิโลกรัมแต่ไม่แนะนำให้ออกกำลังกายในช่วงที่ทานคอร์สนี้ เนื่องจากพลังงานที่ได้รับจะน้อยมาก
กลยุทธ์ทางธุรกิจในอนาคต
ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา เรามีการพัฒนาแบรนด์ของเราเองอยู่เรื่อยๆ เช่นในปีที่ 1 เรามีคอร์ส Healthy Balance ปีที่ 2 เรามี Build Fit ปีที่ 3 เรามี Cooking Studio ปีที่4 เรามี Cabbage Diet ซึ่งเรามีสินค้าใหม่ๆ มีการพัฒนาอยู่ตลอดแต่ก็ยังอยู่ในเรื่องของการดูแลสุขภาพ การออกสินค้าใหม่ๆมาจากการวางแผนตั้งแต่เริ่มธุรกิจ เรามีกระบวนการคิดเป็นแบบ outside in ว่าจริงๆแล้วลูกค้าอยากได้อะไร มีการไปสอบถามและสำรวจว่า จริงๆแล้วเนี่ยมนุษย์ออฟฟิศกินอะไรกันบ้างในช่วงเช้า ช่วงกลางวัน เสร็จแล้วเราก็มาทำการบ้านต่อ เป็น Inside out เพื่อที่เราจะได้ตอบโจทย์ลูกค้าของเราได้อย่างตรงความต้องการ
ในอนาคตในช่วงปีที่ 10 เราวางแผนไว้ว่าจะมีร้านอาหารที่เป็นหน้าร้านจริงๆ ในร้านที่จะเปิดเราจะปลูกผักของตัวเอง ซึ่งไม่ได้อยู่ในกรุงเทพ แล้วเราก็จะสะท้อนเรื่องราวว่าช่วงเวลาที่เราเดินมาตั้งแต่ปีที่ 1 จนถึงปีนี้มันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ให้มันเกิดเป็น Story ที่อยู่ในร้าน
ความคิดเห็นเกี่ยวกับเทรนด์ของอาหารเดลิเวอรี่
ผมว่ามันตอบโจทย์ในมุมของสังคมคนเมือง จากการที่ผมไปประเทศต่างๆ เช่น สิงคโปร์ ไต้หวัน ลอนดอน สังเกตว่าตอนนี้คนส่วนใหญ่ใช้ชีวิตแบบเร่งรีบและมีเวลาดูแลเรื่องอาหารการกินน้อยลง อาหารเดลิเวอรี่เข้ามามีอิทธิพลในกลุ่มสังคมคนเมืองค่อนข้างมาก ในทางกลับกันถ้าคุณอยากได้อาหารที่ดีต่อสุขภาพ ผมอยากแนะนำว่าการทำอาหารที่บ้านเองเป็นสิ่งที่ดีกว่า แต่ถ้าคุณไม่มีเวลาจริงๆ การใช้บริการอาหารเดลิเวอรี่ก็จะเพิ่มความสะดวกสบาย ไม่ต่างอะไรกับสินค้าอื่นๆ เช่นเครื่องสำอางค์ หรือการซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ตเอง คุณก็สามารถสั่งออนไลน์ได้แล้วเหมือน
การทำ Branding มีประโยชน์อย่างไร
การทำ Branding นั้น สิ่งที่ได้อย่างชัดเจนก็คือความยั่งยืนของตัวธุรกิจ ผมมีทฤษฎีหนึ่งก็คือ Butterfly Theory เหมือนยิ่งคุณวิ่งตามหาผลลัพธ์มากเท่าไหร่ บางทีผลลัพธ์นั้นอาจจะหนีคุณไปก็ได้ แต่ถ้าคุณทำตัวเองให้ดี ผมเชื่อว่าสิ่งดีๆ ก็จะวิ่งเข้ามาหาคุณด้วยเหมือนกัน เหมือนกับการไปจับผีเสื้อ ถ้าคุณยิ่งวิ่งไปหาผีเสื้อ ผีเสื้อก็จะบินหนีคุณ แต่ถ้าคุณทำตัวให้หอม ทำตัวให้ดี ทำตัวให้สะอาด มาตรฐานถูกต้อง ผีเสื้อก็จะบินมาหาคุณเอง
ก่อนที่คุณจะสร้างแบรนด์มันไม่ใช่แค่โลโก้หรือแค่ลูกค้า แบรนด์ยังรวมถึง คู่ค้า ลูกจ้าง เป้าหมายคือทำยังไงให้แบรนด์ของเราเข้าไปนั่งในใจของลูกค้าได้ โดยที่ส่วนอื่นๆ ต้อง happy และ win ด้วย ไม่ใช่เราได้ประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว ถ้าเราทำให้ได้ win win win ถึง 3 win โดยให้ทุกฝ่ายมีผลประโยชน์ร่วมกันแล้ว แบรนด์จะสามารถประสบความสำเร็จได้ในระยะยาว
บรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหารมีความสำคัญอย่างไร
สำหรับผมบรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหารมีความสำคัญมาก เนื่องจากบรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหารนั้นเป็นภาชนะที่จะพาอาหารที่เราทำเสร็จแล้วส่งถึงมือลูกค้า ถ้าบรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหารไม่สามารถอยู่ทรงได้ หรืออาหารที่เราจัดไว้สวยงามแล้วเนี่ยพอไปถึงมือลูกค้าแล้วมันเสียหาย ก็ทำให้อาหารดูไม่น่าทาน
บรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหารแบบพลาสติก อาจจะช่วยในเรื่องของความแข็งแรงซึ่งอาจจะตอบโจทย์ของการเดลิเวอรี่ แต่ถ้าในมุมของการรักษาสิ่งแวดล้อม ผมเปิดธุรกิจมา 5 ปี ผมรู้สึกผิดทุกครั้งที่ใช้กล่องพลาสติกเยอะมากๆ ในแต่ละปี ผมก็พยายามมองหาบรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหารที่ยังทำให้อาหารยังดูน่ากินอยู่ เมื่อส่งไปถึงมือลูกค้าแล้วบรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหารนั้นมันไม่บุบเบี้ยว และยังดีต่อสิ่งแวดล้อมด้วย แล้วปีนี้ผมก็ได้เจอบรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหารที่เหมาะสมกับแนวคิดการทำธุรกิจของผม ก็คือกล่องเยื่อธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ของ DezpaX
ความรู้สึกในการใช้กล่องเยื่อธรรมชาติที่ย่อยสลายได้ใน 90 วัน
ตอนแรกผมก็มีความกังวลที่จะเปลี่ยนจากกล่องใส่อาหารแบบพลาสติกมาเป็นกล่องเยื่อกระดาษ เพราะกลัวว่าลูกค้าจะไม่ได้รับความสะดวก แต่พอได้เปลี่ยนมาลองใช้จริงๆลูกค้ากลับชอบมากกว่า เพราะลองจินตนาการดูว่าถ้าลูกค้าสั่งอาหารจากที่ร้านไป 3 เดือน ถ้าเขาเก็บกล่องใส่อาหารแบบพลาสติกมาเนี่ย อาจจะได้เป็นตั้งสูงๆ อยู่ในบ้าน ทำให้รกบ้านด้วยซ้ำ แล้วมันก็ย่อยสลายยากมาก แต่พอเปลี่ยนมาเป็นกล่องเยื่อกระดาษลูกค้ากลับรู้สึก Happy ซึ่งทำให้ผมรู้สึก Surprise กับผลลัพธ์เหมือนกัน
การใช้บริการจาก DezpaX แตกต่างจากร้านอื่นอย่างไร
เมื่อได้มาใช้บริการ DezpaX ที่เป็นศูนย์ในการจำหน่ายกล่องอาหารพร้อมมีสายคาดสติ๊กเกอร์, งานพิมพ์โลโก้ เพื่อช่วยให้ร้านอาหารมี Branding บนกล่องอาหาร เป็น One Stop Service สำหรับร้านอาหารที่ต้องการเน้นเดลิเวอรี่ ความแตกต่างของ DezpaX กับบริษัทอื่นๆ ก็คือการเข้ามาด้วยทางเลือกที่หลากหลาย นอกจากบรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหารแล้ว ทาง DezpaX ยังมีบริการการออกแบบโลโก้ สายคาด ซึ่งเป็นบริการที่ไม่เหมือนที่อื่น อีกทั้งบริการของ DezpaX ค่อนข้างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นภาชนะ ถุงกระดาษ รวมถึงงานพิมพ์ งานออกแบบ DezpaX ยังช่วยดูแลและจัดการให้ด้วย และเน้นในเรื่องของความสะดวกสบายของลูกค้า สามารถสั่งซื้อสินค้าจาก website ได้ง่ายๆ รายละเอียดสินค้า และราคาชัดเจน มีการบันทึกประวัติการสั่งซื้อของเราเอง และมีโปรโมชันต่างๆ ซึ่งบริการทั้งหลายเหล่านี้จะช่วยให้ SME ดำเนินธุรกิจได้ง่ายขึ้น เปรียบเทียบเมื่อ 5 ปีที่แล้ว ผมต้องเดินเข้าไปในร้านโชว์ห่วย เลือกซื้อบรรจุภัณฑ์เอง ต้อง search หาตามเว็บไซต์ มาเปรียบเทียบเองทั้งราคาและคุณภาพของสินค้า ทำให้ใช้เวลาค่อนข้างเยอะ แต่ DezpaX มีบรรจุภัณฑ์หรือกล่องใส่อาหารให้เลือกหลายรูปแบบ และมีความเข้าใจร้านอาหารเป็นอย่างดี ทำให้ประหยัดเวลาไปได้เยอะมากครับ